5 นิสัยต้องห้าม ถ้าไม่อยากเป็น กระดูกทับเส้น
@dr.pongbonetalk เช็กด่วน 5 นิสัย เสี่ยงกระดูกทับเส้น!! ถ้าไม่อยากปวดทรมาน จนทำงานทำการไม่ได้ ต้องฟังให้จบนะครับ #GULF #GulfSPARK #หมอโป้ง #หมอโป้งคุยเฟื่องเรื่องกระดูก #คุยเฟื่องเรื่องกระดูก #ปวดหลัง #มนุษย์ออฟฟิศ #ออฟฟิศซินโดรม ♬ original sound - หมอโป้ง คุยเฟื่องเรื่องกระดูก

การดูแลสุขภาพของ กระดูก เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการป้องกันโรค กระดูกทับเส้น ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในกลุ่มคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. นิสัยที่เป็นสาเหตุของโรค กระดูกทับเส้น

การนั่งท่าเดิมนานๆ

การนั่งในท่าเดิมเป็นเวลานานสามารถทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็ง ทำให้เกิดอาการ ปวดหลัง และส่งผลกระทบต่อ กระดูกสันหลัง ได้ การนั่งหลังงอจะเพิ่มแรงกดทับที่ หมอนรองกระดูก และอาจนำไปสู่การเกิดโรค กระดูกทับเส้น และการนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานยังส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ทำให้เลือดไปเลี้ยง กระดูกสันหลัง และกล้ามเนื้อบริเวณหลังได้ไม่ดีเท่าที่ควร

Sitting in the same position for extended periods

การกินมากเกินไปและน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน

น้ำหนักตัวที่มากเกินไปเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ เนื่องจาก กระดูกสันหลัง ต้องรับน้ำหนักมากขึ้น ทำให้เกิดแรงกดทับที่ หมอนรองกระดูก และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกทับเส้น

Overeating

การสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่มีผลต่อการไหลเวียนของออกซิเจนไปยัง กระดูกสันหลัง ทำให้ หมอนรองกระดูก เสื่อมสภาพเร็วขึ้น การสูบบุหรี่ยังทำให้ กระดูก สูญเสียความยืดหยุ่นและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้

Smoking​

การไม่ออกกำลังกาย

การไม่ออกกำลังกายทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอและไม่สามารถสนับสนุน กระดูกสันหลัง ได้อย่างเพียงพอ กล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรงจะทำให้ กระดูก ต้องรับภาระหนักขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นกระดูกทับเส้น การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับ กระดูกสันหลัง

Lack of Exercise​

การนอนคว่ำ

การนอนคว่ำทำให้ กระดูกสันหลัง แอ่นผิดปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดโรคกระดูกทับเส้น การนอนในท่าที่ถูกต้องจะช่วยลดแรงกดทับที่ หมอนรองกระดูก และป้องกันปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง

Sleeping on Your Stomach​

2. อาการของโรค กระดูกทับเส้น

อาการปวดหลัง

อาการ ปวดหลัง เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรค กระดูกทับเส้น อาการปวดอาจรุนแรงและกระจายไปยังบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย การปวดหลังที่เกิดจากการกดทับของ เส้นประสาท สามารถทำให้ผู้ป่วยมีความยากลำบากในการทำกิจกรรมประจำวัน ซึ่งอาการอาจมีลักษณะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจรู้สึกปวดตื้อๆ ตลอดเวลา ในขณะที่บางคนอาจมีอาการปวดเฉียบพลันเป็นครั้งคราว อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหว เช่น การก้มหรือเอี้ยวตัว นอกจากนี้ อาการ ปวดหลัง ยังอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนหลับ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหนื่อยล้าและหงุดหงิดได้ง่าย

อาการชาหรืออ่อนแรง

การกดทับของ เส้นประสาท อาจทำให้เกิดอาการชาหรืออ่อนแรงในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ อาการเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวและความสามารถในการทำงานของผู้ป่วย

อาการชาอาจเริ่มต้นเป็นความรู้สึกเสียวซ่าหรือรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มแทงในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมักเป็นบริเวณขาหรือเท้า ในกรณีที่รุนแรง อาการชาอาจลุกลามจนทำให้ผู้ป่วยสูญเสียความรู้สึกในบริเวณนั้นๆ อย่างสมบูรณ์ ส่วนอาการอ่อนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาในการเดินหรือยกของ ในบางกรณี อาการอ่อนแรงอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้

อาการปวดที่ร้าวลงขา

อาการปวดที่ร้าวลงขาเกิดจากการกดทับของ เส้นประสาท ที่บริเวณ กระดูกสันหลัง อาการนี้สามารถทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายและมีความยากลำบากในการเดินหรือเคลื่อนไหว

อาการปวดที่ร้าวลงขามักมีลักษณะเฉพาะ คือ เริ่มจากบริเวณหลังส่วนล่างแล้วร้าวลงไปตามขาจนถึงเท้า บางครั้งอาจรู้สึกเหมือนไฟฟ้าช็อตหรือความร้อนที่แล่นไป การรู้สึกเหล่านี้อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายและต้องหยุดพักบ่อยๆ

อาการเสียวซ่า

อาการเสียวซ่าเป็นความรู้สึกที่ผิดปกติในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากการกดทับของ เส้นประสาท อาการนี้สามารถทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายและมีความยากลำบากในการทำกิจกรรมประจำวัน

3. วิธีการรักษา

การผ่าตัดส่องกล้อง

การผ่าตัดส่องกล้องเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยโรค กระดูกทับเส้น การใช้เทคโนโลยีการผ่าตัดส่องกล้องช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นและลดผลข้างเคียง ที่สำคัญยังมีแผลเล็ก ทำให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วขึ้น นอกจากนี้ การผ่าตัดส่องกล้องยังช่วยลดอาการปวดหลังผ่าตัดและลดการบาดเจ็บต่อกล้ามเนื้อหลัง

โดยทั่วไปการผ่าตัดจะทำเมื่อมีข้อบ่งชี้ดังต่อไปนี้ คือ รักษาด้วยวิธีประคับประคอง ไม่เป็นผลสำเร็จ หรือมีอาการปวดเรื้อรัง หรือมีอาการอ่อนแรงของขาอย่างชัดเจน หรือไม่สามารถควบคุมการขับถ่าย ปัสสาวะ หรืออุจจาระได้

การผ่าตัดหมอนรอง กระดูก ทับ เส้นประสาท ผ่านกล้องเอ็นโดสโคป จะนำเฉพาะส่วนที่มีการกดทับ เส้นประสาท ออกไม่ว่าจะเป็นการกดทับจากหมอนรอง กระดูก ปลิ้น การบีบรัดจาก กระดูก ข้อต่อและเส้นเอ็น หรือการกดทับจากถุงน้ำข้อต่อ กระดูกสันหลัง ทำให้อาการ ปวดหลัง ร้าวลงขาหรือ ปวด น่องเวลาเดิน หรืออาการชาและอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงปัญหาทางระบบประสาทอื่นๆ ที่เกิดจาก เส้นประสาท ถูกกดทับเป็นเวลานานทุเลาหรือหายไป โดยเฉพาะการมีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก ผู้ป่วยมีอาการเจ็บแผลผ่าตัดน้อยและสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติดังเดิม

การฟื้นฟูสมรรถภาพ

การทำกายภาพบำบัดเป็นวิธีการฟื้นฟูสมรรถภาพที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคกระดูกทับเส้น การเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่นจะช่วยลดอาการและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ซึ่งอาจรวมถึงการทำกายภาพบำบัด การออกกำลังกายแบบเบาๆ และการฝึกท่าทางที่ถูกต้อง การทำกายภาพบำบัดจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับ กระดูกสันหลัง

การออกกำลังกายแบบ McKenzie exercise เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยลดอาการปวดหลัง จัดกระดูกสันหลัง และดันหมอนรองกระดูกที่ปลิ้นออกมาให้กลับเข้าที่ ช่วยลดแรงดันที่กดลงรากประสาทได้

  • ท่านอนคว่ำ (นอนคว่ำธรรมดา)
    เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังมาก และพึ่งเป็นใหม่ๆ การนอนหงายจะไปกระตุ้นอาการปวดให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงใช้วิธีนอนคว่ำเพื่อลดการกดทับของหมอนรองกระดูกสันหลังต่อ เส้นประสาท นอนคว่ำอย่างน้อยวันละ 15 นาที จนไม่มีอาการปวดจึงเริ่มทำท่าต่อไป
  • ท่านอนคว่ำ ชันศอก-เหยียดแขนสุด
    ท่านี้จะเป็นการเพิ่มแรงดันให้กับหมอนรองกระดูกสันหลังที่ปลิ้นออกมา โดยใช้แรงดันจากการแอ่นหลังทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังที่กดทับ เส้นประสาท กลับเข้าที่ ลดการกดทับ และลดอาการปวดหลัง ท่านี้ให้เริ่มทำจากการตั้งศอกขึ้นมาก่อน ให้อยู่ในท่านี้ครั้งละ 1 – 5 นาที หรือสุดทน จึงลงไปพักในท่านอนคว่ำและทำซ้ำ 5 – 10 รอบ เมื่อทำท่านี้จนไม่มีความรู้สึกปวดแล้วจึงพัฒนาเพิ่มแรงดันโดยการเหยียดแขนสุด และทำเหมือนกัน โดยครั้งนี้จะพักในท่าที่รองลงมา
  • ยืนแอ่นหลัง
    เป็นท่าที่ทำให้เกิดแรงดันต่อหมอนรองกระดูกสันหลังมากที่สุด แนะนำให้ลองทำเมื่อไม่มีอาการปวดหรือหายดีแล้ว เพื่อจัดกระดูกสันหลัง
  • การฝึกหดกล้ามเนื้อหน้าท้องชั้นลึก
    เป็นการออกกำลังกายที่มุ่งเน้นให้กระดูกสันหลังมีความมั่นคง ไม่เกิดการบาดเจ็บในขณะมีการเคลื่อนไหวหลังได้โดยง่าย โดยการฝึกหดกล้ามเนื้อหน้าท้องชั้นลึก โดยให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ 2 – 3 ครั้ง แล้วหายใจเข้าออกลึกๆ โดยขณะที่หายใจเข้ากล้ามเนื้อหน้าท้องจะป่อง และหายใจออกกล้ามเนื้อหน้าท้องจะยุบ ในขณะที่หายใจออกเต็มที่ให้เกร็งแขม่วหน้าท้องค้างไว้ 1 – 10 วินาที โดยที่ผู้ป่วยจะต้องไม่กลั้นหายใจ สามารถพูดคุยได้ พอครบค่อยๆ คลายกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เกร็งแขม่วไว้ออก สามารถทำได้บ่อยๆ

การใช้ยา

การใช้ยาลดปวดหรือยาต้านการอักเสบสามารถช่วยลดอาการของโรคกระดูกทับเส้นได้ การใช้ยาเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาที่สำคัญและควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์

การใช้ยาในผู้ป่วยโรค กระดูกทับเส้น อาจรวมถึงยาลดปวด ยาต้านการอักเสบ และยาคลายกล้ามเนื้อ การใช้ยาเหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการ ปวดหลัง และลดการอักเสบของ เส้นประสาท

  • ยาลดปวด ได้แก่ พาราเซตามอล, ไดโคฟีแนค, อิบูโพรเฟน เป็นต้น
  • ยาต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดและบวมบริเวณที่มีการอักเสบ ได้แก่ เซเลคอกซิบ, เมโลกซิแคม เป็นต้น
  • ยาคลายกล้ามเนื้อ ช่วยลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยลดแรงกดทับต่อ เส้นประสาท และบรรเทาอาการปวด ได้แก่ ไดอะซีแพม, ไทซานิดีน เป็นต้น

การใช้ยาในผู้ป่วยโรค กระดูกทับเส้น ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากยาแต่ละประเภทอาจมีผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน เช่น ยาลดปวดอาจส่งผลต่อกระเพาะอาหารและไต ยาต้านการอักเสบอาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น ดังนั้น แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับแต่ละรายและติดตามผลการรักษา

ในบางกรณี ผู้ป่วยอาจต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เช่น 1-3 เดือน เพื่อควบคุมอาการปวดและอักเสบ ในกรณีเช่นนี้ ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และควรมีการติดตามผลการใช้ยาอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

การใช้ยาควรเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาแบบองค์รวม ซึ่งรวมถึงการทำกายภาพบำบัด การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และในบางกรณีอาจต้องใช้การรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น การฉีดยาเข้าบริเวณที่มีการกดทับ หรือการผ่าตัด การใช้ยาร่วมกับการรักษาแบบอื่นจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การปรับพฤติกรรม

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่ง การนอน และการออกกำลังกายสามารถช่วยป้องกันอาการกลับมาอีก การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรค กระดูกทับเส้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งหลังตรง การนอนในท่าที่ถูกต้อง และการออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรค กระดูกทับเส้น และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

  • การนั่ง
    • ท่านั่ง ควรนั่งหลังตรง พิงกับพนักพิง น้ำหนักลงบริเวณตรงกลาง ไม่นั่งเอียง เท้าสองข้างวางราบกับพื้น เข่างอตั้งฉาก ต้นขาวางราบกับที่นั่ง ให้ข้อพับเข่าอยู่ห่างจากขอบที่นั่งของเก้าอี้ประมาณ 1 นิ้วเพื่อป้องกันการกดทับเส้นเลือดใต้เข่า
    • หมั่นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ไม่ควรนั่งไขว่ห้าง เพราะทำให้น้ำหนักตัวลงข้างใดข้างหนึ่งและแนว กระดูกสันหลัง เอียง ทำให้ปวดหลังได้
Sitting in good posture reduce back pain which can lead to Herniated Disc
  • การนอน
    • ท่านอน ควรนอนหงายหรือนอนตะแคง โดยใช้หมอนรองใต้เข่าหรือระหว่างขา เพื่อให้สะโพกงอเล็กน้อย ไม่ควรนอนคว่ำ เพราะจะทำให้กระดูกสันหลัง แอ่นผิดปกติ
    • การใช้หมอนรองใต้เข่าหรือระหว่างขาจะช่วยรักษาแนว กระดูกสันหลัง ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการ ปวดหลัง และโรค กระดูกทับเส้น
sleeping in good posture reduce back pain which can lead to Herniated Disc
using pillow under the leg reduce back pain
  • การลุกจากที่นอน
    • ให้เลื่อนตัวมาใกล้ขอบเตียงนอน ตะแคงตัว งอเข่า ห้อยขาลงข้างเตียงพร้อมกับใช้มือยันตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วจึงค่อยลุกยืน ไม่ควรลุกขึ้นนั่งทันทีในขณะที่นอนหงายอยู่ เพราะจะต้องใช้กล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อหน้าท้องมาก อาจทำให้ปวดหลังได้
Getting Out of Bed
  • การยืน
    • ยืนให้หลังตรง ในท่าที่สบาย กางขาออกเล็กน้อย ให้น้ำหนักตัวลงค่อนมาทางส้นเท้าทั้งสองข้าง แขม่วท้อง อกผายไหล่ผึ่ง ไม่ควรยืนในท่าเดียวนานๆ ควรขยับตัวเปลี่ยนท่าบ่อยๆ หรือยืนลงน้ำหนักบนขาข้างใดข้างหนึ่งสลับกัน หรือสลับเท้าวางพักเท้าบนโต๊ะเล็กๆ ที่สูงประมาณ 1 คืบ
Stand with a straight back in a comfortable position reduce back pain which can lead to Herniated Disc
  • การยกของ
    ขั้นตอนการยกของหรือหยิบของ ที่วางอยู่ต่ำกว่าระดับสะโพก ต้องพยายามให้หลังตรงอยู่ตลอดเวลาที่ยกของ ไม่ควรก้มหลังยกสิ่งของในท่าที่เข่าเหยียดตรงหรือบิดเอี้ยวตัว การยกของควรทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
    • ขั้นที่ 1 ยืนหลังตรง ขากางออกเล็กน้อย งอเข่า ย่อตัวลงจนกระทั่งมาอยู่ในท่านั่งยองๆ
    • ขั้นที่ 2 หยิบสิ่งของที่ต้องการ ถ้าของนั้นหนักต้องอุ้มของชิ้นนั้นชิดแนบลำตัว
    • ขั้นที่ 3 ค่อยๆ ลุกขึ้นด้วยกำลังขา โดยให้หลังตรงอยู่ตลอดเวลา
Lifting Objects in right way
Lifting Objects in wrong way
  • การเดินและวิ่ง
    • การเดินและวิ่งควรทำในลักษณะที่หลังตรงและไม่บิดเอี้ยวตัว การเดินและวิ่งแบบถูกต้องจะช่วยลดแรงกดทับที่ กระดูกสันหลัง และ หมอนรองกระดูก
Walking and Running
  • การออกกำลังกาย
    • การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับ กระดูกสันหลัง การเลือกออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น การเดิน ว่ายน้ำ หรือโยคะ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกทับเส้น
Swimming

เห็นได้ว่า สาเหตุของการเป็นโรคกระดูกทับเส้น นั้นเกิดจากพฤติกรรมธรรมดา ๆ ที่เรามักทำกันในชีวิตประจำวัน ซึ่งการป้องกันไม่ให้เกิดโรคก็ทำได้ไม่ยาก แต่หากไม่รีบทำการรักษา และปล่อยให้มีอาการรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะต้องผ่าตัด เพื่อให้ใช้ชีวิตประจำวันต่อไปได้ ทางที่ดีจึงควรหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเอง และหากมีอาการไม่ดีต้องรีบเข้าปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาได้ทันเวลา

บทความอื่น ๆ ของเรา

อ่านบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

Share :

บทความที่เกี่ยวข้อง

Facebook

Facebook group

พูดคุยปรึกษามะเร็งฟรี

Feel Something Wrong With Your Bones?

คุณเป็นอะไร? ปรึกษา ฟรี!!!

กรอกชื่อ/อีเมลเพื่อลองปรึกษา

ช่องทางติดตาม เพิ่มเติม

Free consultation