@dr.pongbonetalk เคยมั้ยครับ กับการรู้สึกไม่สบายตัว มีไข้ อ่อนเพลียไม่มีแรง ปวดเมื่อยตามตัว ดูเผินๆ ก็เหมือนเป็นไข้หวัด หรือไม่สบายทั่วๆไป แต่รู้มั้ยครับว่า อาการแบบนี้เป็นสัญญาณของมะเร็งกระดูกชนิดหนึ่งได้ โดยเฉพาะถ้าคุณยังอายุไม่ถึง 30 ปี #เทรนด์วันนี้ #หมอกระดูก #หมอ #แพทย์ #หมอโป้ง #คุยเฟื่องเรื่องกระดูก #มะเร็ง #มะเร็งระยะสุดท้าย #มะเร็งตัวร้าย #ผู้ป่วยมะเร็ง #ไข้ #อ่อนเพลีย #ปวดเมื่อย #ก้อน @หมอโป้ง คุยเฟื่องเรื่องกระดูก @หมอโป้ง คุยเฟื่องเรื่องกระดูก @หมอโป้ง คุยเฟื่องเรื่องกระดูก ♬ Kgf Beat - Nkdaddy
มะเร็งกระดูก เป็นโรคร้ายที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ใน กระดูก แม้พบได้ไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นภัยเงียบที่อาจคุกคามชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น รวมถึงผู้ใหญ่ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีความเสี่ยงและพบอุบัติการณ์ของมะเร็งกระดูกได้มากที่สุด จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะคนที่เป็น ไข้ หรือมีอาการอ่อน เพลีย บ่อย ๆ
1. อาการที่บ่งบอกถึง มะเร็งกระดูก
มะเร็งกระดูก เป็นโรคร้ายที่อาจไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะแรก แต่เมื่อเป็นแล้วจะมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการสังเกตอาการผิดปกติเบื้องต้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้
อาการไข้และอ่อนเพลีย
ผู้ป่วยมะเร็งกระดูกอาจมี ไข้ และรู้สึกอ่อน เพลีย ซึ่งเป็นอาการทั่วไปแต่ไม่จำเพาะเจาะจงสำหรับโรคนี้ เพราะอาการดังกล่าวอาจพบได้ในมะเร็งชนิดอื่น ๆ ด้วย เช่น มะเร็งเม็ดเลือดหรือต่อมน้ำเหลือง รวมถึงมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร ที่อาจทำให้ผู้ป่วยมี ไข้ เรื้อรังนานกว่า 1 สัปดาห์ รู้สึกอ่อน เพลีย และเบื่ออาหาร
อาการปวดเมื่อยตามตัว
ผู้ป่วยมะเร็งกระดูกมักมีอาการปวดตามตัวหรือที่ กระดูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการปวดต่อเนื่องและปวดมากในเวลากลางคืน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่ามะเร็งได้แพร่กระจายเข้าสู่ กระดูก แล้ว ทำให้เกิดอาการปวดบวมหรือมีก้อน โดยอาการปวดอาจเป็น ๆ หาย ๆ ในระยะแรก แต่จะปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแตกต่างจากอาการปวดจากกล้ามเนื้ออักเสบหรือข้อเคล็ดที่มักปวดเวลาใช้งาน
น้ำหนักลดและมีก้อนแข็งตามตัว
ผู้ป่วยโรคมะเร็งกระดูกอาจมีอาการต่าง ๆ ที่บ่งบอกถึงความผิดปกติ เช่น น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจลดน้ำหนักหรือเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังอาจพบว่ามีก้อนนูนขึ้นมาบริเวณกระดูก มีการบิดเบี้ยวผิดรูปของกระดูก กระดูกมีลักษณะเปราะบางแตกหักได้ง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน หากอาการรุนแรงมากขึ้น อาจมีแผลที่เกิดจากก้อนเนื้อ มีเลือดออกเรื้อรัง หรือมีการแพร่กระจายของมะเร็งเข้าสู่ไขกระดูก ส่งผลให้เกิดภาวะซีดและอ่อน เพลีย
ผู้ป่วยมะเร็งกระดูกอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังอวัยวะต่าง ๆ เช่น หากมะเร็งลุกลามไปที่สมอง อาจทำให้มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ชัก หรือมีอาการผิดปกติทางระบบประสาท ถ้ามะเร็งแพร่กระจายไปที่ระบบทางเดินอาหาร ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย เบื่ออาหาร หรือถ่ายเป็นเลือด
ในบางกรณี ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดหลังหรือปวดสะโพก เนื่องจากก้อนมะเร็งไปกดทับเส้นประสาท หรือลุกลามไปที่กระดูกสันหลังและกระดูกเชิงกราน ทำให้เกิดอาการปวดร้าวไปที่ขาหรือบริเวณอื่น ๆ รวมถึงอาจมีอาการชาหรืออ่อนแรงที่แขนขา จากการที่ก้อนมะเร็งไปกดทับไขสันหลัง
เมื่อโรคมะเร็งกระดูกดำเนินมาถึงระยะท้าย ผู้ป่วยมักมีอาการอ่อน เพลีย ซีดเซียวมาก น้ำหนักร่างกายลดลงอย่างเห็นได้ชัด อาจมีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดหรือเลือดออกผิดปกติ เพราะเซลล์มะเร็งแพร่กระจายเข้าไปทำลายไขกระดูก รบกวนการสร้างเม็ดเลือด นอกจากนี้ยังมีอาการปวดกระดูกที่รุนแรงมากขึ้นจนต้องใช้ยาแก้ปวดแรง ๆ อย่างมอร์ฟีนในปริมาณสูง หรืออาจมีอาการชักเกร็งจากภาวะแคลเซียมในเลือดสูงผิดปกติ อันเป็นผลมาจากการสลายตัวของกระดูก
2. กลุ่มเสี่ยง มะเร็งกระดูก และช่วงอายุที่พบมาก
แม้ว่ามะเร็งกระดูกจะพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ก็ไม่ควรมองข้ามหรือละเลย เพราะเป็นภัยเงียบที่คุกคามชีวิต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น รวมถึงผู้ใหญ่ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีความเสี่ยงและพบอุบัติการณ์ของมะเร็งกระดูกได้มากที่สุด จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด
เด็กและวัยรุ่น
มะเร็งกระดูก ในเด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่เป็นชนิดปฐมภูมิ ซึ่งหมายความว่าเกิดจากความผิดปกติของเซลล์กระดูกเอง ไม่ได้แพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น โดยพบได้ประมาณ 6% ของโรคมะเร็งในเด็กทั้งหมด มักเกิดบริเวณใกล้ข้อต่อต่าง ๆ เช่น ข้อเข่า ข้อสะโพก ข้อไหล่ และข้อศอก
อาการของมะเร็งกระดูกในเด็กที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดกระดูกโดยเฉพาะตอนกลางคืนหรือหลังตื่นนอน บางรายอาจมีไข้ต่ำ ๆ ร่วมด้วย นอกจากนี้ยังอาจสังเกตเห็นก้อนโตขึ้นผิดปกติตามแขนขา ซึ่งเป็นเนื้องอกของกระดูก และอาจทำให้กระดูกบริเวณนั้นหักหรือร้าวได้ง่ายกว่าปกติ หากเด็กมีอาการเหล่านี้ควรพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว
ผู้ใหญ่อายุไม่เกิน 30 ปี
ในกลุ่มผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาวที่มีอายุไม่เกิน 30 ปี ก็เป็นอีกช่วงวัยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระดูกค่อนข้างสูง โดยเฉพาะมะเร็งกระดูกชนิดปฐมภูมิเช่นเดียวกับในเด็ก อาการสำคัญที่ต้องระวังและสังเกต ได้แก่ มีไข้เรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ, ปวดตามข้อหรือกระดูกโดยเฉพาะบริเวณแขนขา, รู้สึกเพลียอ่อนแรงง่าย และน้ำหนักลดลงอย่างผิดปกติโดยไม่ได้ตั้งใจ หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุโดยเร็ว
ช่วงอายุที่พบมากที่สุด
แม้ว่ามะเร็งกระดูกจะเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุ แต่จากสถิติพบว่ากลุ่มที่พบได้มากที่สุดคือ เด็กโต วัยรุ่น และวัยหนุ่มสาว โดยเฉพาะในช่วงอายุประมาณ 10-20 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ร่างกายมีการเจริญเติบโตของกระดูกอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ผู้ที่เคยเป็นมะเร็งชนิดอื่นมาก่อน เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก ก็มีความเสี่ยงที่มะเร็งจะแพร่กระจายไปยังกระดูก กลายเป็นมะเร็งกระดูกชนิดทุติยภูมิได้เช่นกัน โดยเฉพาะมะเร็งกระดูกสันหลัง ที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม จึงต้องเฝ้าระวังและติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที
ผู้ปกครองและคนในครอบครัวควรใส่ใจและสังเกตอาการผิดปกติของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอาการปวดกระดูก ไข้ เพลีย อ่อนแรง หรือน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็วที่สุด เพราะการรักษามะเร็งกระดูกจะได้ผลดีหากตรวจพบในระยะเริ่มแรก
3. การตรวจพบและการรักษา
มะเร็งกระดูกเป็นโรคร้ายแรงที่มักแอบแฝงมาพร้อมกับอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คล้ายกับโรคทั่วไป เช่น มี ไข้ และรู้สึกอ่อน เพลีย ทำให้คนไข้ส่วนใหญ่มักจะไปหาหมอตอนที่โรคลุกลามไปมากแล้ว เพราะฉะนั้น การสังเกตอาการผิดปกติและรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงสำคัญมาก
การตรวจพบในระยะเริ่มต้น
อาการเตือนที่ควรระวัง ได้แก่
- ปวดกระดูกหรือข้อแบบเรื้อรัง โดยเฉพาะตอนกลางคืน
- กระดูกหักหรือร้าวง่ายผิดปกติ
- มีก้อนโตขึ้นตามแขนขา หรือกระดูกผิดรูปร่างไป
ถ้ามีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปหาหมอเพื่อตรวจให้ละเอียด อาจต้องเอกซเรย์ ทำ MRI หรือ CT scan รวมถึงตัดชิ้นเนื้อไปตรวจด้วย ยิ่งตรวจพบเร็วเท่าไหร่ โอกาสรักษาให้หายขาดก็ยิ่งมีมากขึ้น
การรักษาเบื้องต้น
การรักษา มะเร็งกระดูก ส่วนใหญ่จะใช้วิธีผ่าตัดเป็นหลัก ร่วมกับให้ยาเคมีบำบัดและฉายแสง เพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งให้หมด ปัจจุบันหมอมักจะพยายามผ่าตัดแบบเก็บอวัยวะไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีหลังการรักษา
ระหว่างให้ยาเคมีบำบัด คนไข้อาจมีอาการข้างเคียง เช่น ผมร่วง คลื่นไส้อาเจียน แต่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นหลังการรักษา ถ้ารักษาตั้งแต่ระยะแรกและทำอย่างต่อเนื่อง โอกาสหายขาดจากโรคก็มีสูง
การรักษาในระยะลุกลาม
ในกรณีที่ มะเร็ง ลุกลามไปที่อื่น เช่น กระดูกสันหลัง อาจทำให้ปวดรุนแรงมาก หรือกดทับไขสันหลังจนแขนขาอ่อนแรง ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบรักษาภายใน 24-48 ชั่วโมง โดยอาจให้ยาสเตียรอยด์ ผ่าตัด หรือฉายแสง เพื่อลดการกดทับ
นอกจากนี้ เซลล์มะเร็งที่กระดูกอาจทำให้แคลเซียมในเลือดสูงผิดปกติ ส่งผลให้ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย ซึม กล้ามเนื้ออ่อนแรง สับสน หรือไตวายได้ ซึ่งต้องรักษาด้วยการให้น้ำเกลือและยาลดระดับแคลเซียม
สำหรับการรักษาในระยะที่ลุกลามแล้ว นอกจากให้ยาเคมีบำบัดและฉายรังสีเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของมะเร็ง บางกรณีอาจต้องผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออกหรือเสริมความแข็งแรงให้กระดูก รวมถึงการรักษาแบบประคับประคองเพื่อบรรเทาอาการปวดและช่วยให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การรักษา มะเร็งกระดูก ในระยะลุกลามต้องอาศัยทีมแพทย์หลายสาขา เพื่อให้การรักษาครอบคลุมทุกด้านและเพิ่มโอกาสให้คนไข้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพมากที่สุด
การรักษา มะเร็งกระดูก ระยะลุกลามต้องใช้ทีมแพทย์หลายสาขาร่วมกันดูแล เพื่อให้การรักษาครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการผ่าตัด ให้ยาเคมีบำบัด ฉายรังสี และการดูแลแบบประคับประคอง แม้โอกาสหายขาดจะน้อยลงในระยะนี้ แต่การรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้นานขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักคือการควบคุมอาการและทำให้ผู้ป่วยมีความสุขสบายมากที่สุด ดังนั้น การตรวจพบและเริ่มรักษาตั้งแต่ระยะแรก ๆ จึงสำคัญมาก เพราะจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดหรือควบคุมโรคได้ดีกว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงหรือสงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งกระดูกควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยเร็วที่สุด
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- รู้ก่อนสังเกตได้ “มะเร็งกระดูก” มีอาการอย่างไร โดย อ.นพ.ชินดนัย หงสประภาส จาก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
- มะเร็งกระดูก รู้ก่อนรักษาได้ โดย ผศ.นพ.ระพินทร์ พิมลศานติ์ จาก โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
- โรคมะเร็งกระดูก โดย ผศ.นพ.อดิศักดิ์ นารถธนะรุ่ง จาก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์ความเป็นเลิศด้านโรคมะเร็ง
- โรคมะเร็งกระดูกสันหลัง วินิจฉัยเร็ว รักษาถูกวิธี ย่อมดีกับผู้ป่วย โดย นพ.สุทธิพัฒน์ ไพโรจน์บริบูรณ์ จาก โรงพยาบาลพญาไท 2
- ปวดข้อเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ สัญญาณอันตรายของมะเร็งกระดูก โดย ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลเวชธานี