ปวดข้อศอก อาจจะไม่ได้เกิดจากข้อศอก

หน้าแรก

โรคแบบนี้ รักษาอย่างไร
ปวดข้อศอก อาจจะไม่ได้เกิดจากข้อศอก

@dr.pongbonetalk ปวดข้อศอกอาจไม่ได้เกิดจากข้อศอกแต่เกิดจากข้อมือ! รู้แล้วต้องรักษาให้ถูกที่นะครับ #เทรนด์วันนี้ #tiktokuni #รู้จากTikTok #tiktokuni_th #รู้หรือไม่ #หมอกระดูก #tiktokแนะแนว #สังคมต้องรู้ #ฉันเพิ่งรู้ #สุขภาพดี #รักสุขภาพ #หมอโป้ง #คุยเฟื่องเรื่องกระดูก #กระดูก #ปวดข้อ #อยากเป็นหมอ #ข้อมือ #CallofDragons ♬ original sound - หมอโป้ง คุยเฟื่องเรื่องกระดูก

อาการ ปวดข้อศอก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา คนทำงานออฟฟิศ หรือแม้แต่ผู้ที่ทำงานบ้านทั่วไป หลายคนอาจเข้าใจว่าอาการปวดข้อศอกนั้นเกิดจากการบาดเจ็บที่ข้อศอกโดยตรง แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการนี้อาจมีสาเหตุมาจากการใช้งานส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ข้อมือ ซึ่งเป็นส่วนที่มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวของแขน

1. ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาการ ปวดข้อศอก

อาการ ปวดข้อศอก มักถูกเข้าใจผิดว่าเกิดจากการบาดเจ็บที่ข้อศอกเอง แต่ในหลายกรณี อาการนี้อาจมีสาเหตุมาจากการใช้งาน ข้อมือ มากเกินไป การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงจะช่วยให้เราสามารถจัดการกับอาการนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาการปวดที่ไม่ได้เกิดจากข้อศอก

หลายคนอาจคิดว่าอาการปวดข้อศอกเกิดจากการบาดเจ็บที่ข้อศอกเอง แต่ในหลายกรณี อาการปวดนี้อาจมีสาเหตุมาจากการใช้งาน ข้อมือ มากเกินไป การใช้งาน ข้อมือ อย่างหนักหรือซ้ำ ๆ เช่น การพิมพ์งาน การยกของหนัก หรือการเล่นกีฬา เช่น เทนนิสหรือกอล์ฟ สามารถทำให้เกิดการอักเสบของเส้นเอ็นที่เชื่อมต่อระหว่าง ข้อมือ และข้อศอกได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการ ปวดแขน แบบ ร้าว ๆ จาก ข้อมือ ไปยังข้อศอก

การใช้งานข้อมือที่ทำให้เกิดอาการปวด

การใช้งาน ข้อมือ มากเกินไปเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอาการ ปวดข้อศอก การเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ เช่น การพิมพ์งานบนคอมพิวเตอร์ การเล่นเครื่องดนตรี หรือการทำงานที่ต้องใช้ ข้อมือ อย่างต่อเนื่อง สามารถทำให้เส้นเอ็นที่ยึดระหว่าง ข้อมือ และข้อศอกเกิดการอักเสบได้ อาการ ปวดแขน แบบ ร้าว ๆ ที่เกิดจากการใช้งาน ข้อมือ มากเกินไปนี้ มักจะรู้สึกปวดตึงและอาจมีอาการบวมร่วมด้วย

ความสำคัญของการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

การวินิจฉัยที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาอาการ ปวดข้อศอก การระบุสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดข้อศอก จะช่วยให้สามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้ การตรวจสอบอาการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยระบุได้ว่าอาการปวดข้อศอกนั้นเกิดจากการบาดเจ็บที่ข้อศอกเอง หรือเกิดจากการใช้งาน ข้อมือ มากเกินไป การวินิจฉัยที่ถูกต้องยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บเพิ่มเติมและลดความเสี่ยงของการเกิดอาการ ปวดแขน แบบ ร้าว ๆ ในอนาคต

เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดข้อศอกแล้ว เราสามารถดำเนินการรักษาและป้องกันอย่างเหมาะสมได้ หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยคือโรค Tennis Elbow ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็นที่ยึดกับกระดูกข้อศอกด้านนอก อาการนี้มักเกิดจากการใช้งาน ข้อมือ และแขนอย่างหนักหรือซ้ำ ๆ เช่น การเล่นกีฬาเทนนิส กอล์ฟ หรือแม้แต่การทำงานบ้านที่ต้องใช้ ข้อมือ อย่างต่อเนื่อง

2. โรค Tennis Elbow คืออะไร

โรค Tennis Elbow เป็นโรคที่ตั้งชื่อจากกีฬา Tennis เนื่องจากผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้เยอะมากในอดีต เช่น การเล่นกีฬาเทนนิส กอล์ฟ หรือแม้แต่การทำงานบ้านที่ต้องใช้ ข้อมือ อย่างต่อเนื่อง

ลักษณะของโรค Tennis Elbow

โรค Tennis Elbow หรือที่เรียกว่า Lateral Epicondylitis ผู้ป่วยจะมีอาการ ปวดข้อศอก มักจะรู้สึกปวดแสบและอาจมีอาการบวมร่วมด้วย โรคนี้มักเกิดจากการใช้งาน ข้อมือ และแขนอย่างหนักหรือซ้ำ ๆ เช่น การเล่นกีฬาเทนนิส หรือแม้แต่การกิจกรรมใด ๆ ที่ต้องใช้ ข้อมือ อย่างต่อเนื่อง

บริเวณที่เส้นเอ็นอักเสบ

บริเวณที่มักเกิดการอักเสบในโรค Tennis Elbow คือบริเวณที่เส้นเอ็นยึดกับกระดูกข้อศอกด้านนอก ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้งานข้อมือหนัก ๆ ตามที่ได้กล่าวมา และพฤติกรรมการเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิด อาการปวดข้อศอก ก็คือ การกระดก ข้อมือ ดังนั้น การหลีกเลี่ยงการกระดก ข้อมือ อย่างรวดเร็วหรือซ้ำ ๆ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอาการปวดข้อศอกได้

3. การจัดการและการรักษา Tennis Elbow

การจัดการและการรักษาโรค Tennis Elbow เป็นสิ่งสำคัญในการลดอาการ ปวดข้อศอก และป้องกันการเกิดซ้ำ การรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถกลับมาใช้งาน ข้อมือ และแขนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การลดการใช้งานข้อมือ

การลดการใช้งาน ข้อมือ เป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาอาการ ปวดข้อศอก ที่เกิดจากโรค Tennis Elbow การหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้ ข้อมือ อย่างหนักหรือซ้ำ ๆ เช่น การพิมพ์งาน การเล่นกีฬา หรือการทำงานบ้าน สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอาการ ปวดแขน แบบ ร้าว ๆ ได้ จึงควรพักการใช้งาน ข้อมือ บ้างหรือถ้าจำเป็นก็ควรใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ช่วยพยุง ข้อมือ ไว้ ก็จะช่วยลดอาการปวดและบวมได้

วิธีการบรรเทาอาการอักเสบ

การบรรเทาอาการอักเสบสามารถทำได้โดยการใช้ยาต้านการอักเสบ เช่น ยาไอบูโพรเฟน หรือการใช้ประคบเย็นบริเวณที่ปวด การทำกายภาพบำบัด เช่น การยืดกล้ามเนื้อและการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนและ ข้อมือ ช่วยลดอาการปวดได้ นอกจากนี้ยังมีการนวดและการใช้เทคนิคการบำบัดด้วยคลื่นเสียงช่วยในการบรรเทาอาการได้เช่นกัน

การฟื้นฟูและการป้องกันในอนาคต

การทำกายภาพบำบัด เป็นการฟื้นฟูและการป้องกันอาการปวดข้อศอกเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนและ ข้อมือ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอาการ ปวดแขน แบบ ร้าว ๆ ได้ เช่น Eccentric Wrist Extension หรือ การยกน้ำหนักที่มือ โดยให้ฝ่ามือหันลงพื้น จากนั้นยกข้อมือขึ้นสูงสุดแล้วค่อยๆ ลดน้ำหนักลงในจังหวะช้าๆ ประมาณ 5 วินาที และ Wrist Extension Stretch หรือ การเหยียดแขนออกไปตรงๆ หงายฝ่ามือขึ้น จากนั้นใช้มืออีกข้างดึงฝ่ามือลงจนรู้สึกตึงที่กล้ามเนื้อ ค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาที และทำซ้ำ 3 เซ็ตต่อข้าง จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการอักเสบ

การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน โดยการจัด Work Station ให้เหมาะสม เช่น ใช้เครื่องมือการยศาสตร์ (Ergonomics) ช่วยในการจัดการทำงานและสิ่งแวดล้อมต่างๆ ให้เหมาะสมกับการทำงาน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการอักเสบ

การใช้เครื่องมือช่วยพยุง เช่น Tennis Elbow Support หรือการใช้ผ้าเทป (Therapeutic Tapping) สามารถช่วยลดแรงกดบนเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อในระหว่างทำกิจกรรมที่ต้องใช้แขนและข้อมือมากสามารถช่วยป้องกันการเกิดอาการได้

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการ ปวดข้อศอก และสาเหตุที่แท้จริง รวมถึงการรักษาและป้องกันอย่างถูกต้อง สามารถช่วยให้คุณสามารถจัดการกับอาการปวดข้อศอกและ ปวดแขน แบบ ร้าว ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดูแลรักษาและป้องกันที่ดีสามารถช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และลดความเสี่ยงของการเกิดอาการปวดข้อศอกในอนาคต